การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ
Penile Augmentation
ปรึกษา รักษา ต้องการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ The Gent Clinic
- การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ (Penile Augmentation) คืออะไร
- วิธีการเพิ่มขนาดองคชาต
- การฉีดสารเข้าองคชาต
- การผ่าตัดเพิ่มขนาด
สนใจปรึกษาเพิ่มเติม ฟรี!
คุยกับ "หมอเขม"
- การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ
- การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ (Penile Augmentation) คืออะไร
- ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปไกลมากขึ้น การจะเพิ่มขนาดอวัยวะเพศในปัจจุบันสามารถทำได้และมีความปลอดภัย ปัญหาคือยังมีการโฆษณาชวนเชื่อต่าง ๆ ถึงวิธีการเพิ่มขนาดด้วยเทคนิควิธีผิดๆ อยู่เยอะทำให้คนที่ต้องการจะแก้ปัญหาเรื่องนี้สับสนไม่ทราบว่าวิธีไหนทำแล้วได้ผลจริง วิธีไหนทำแล้วปลอดภัย
- โดยการเพิ่มขนาดที่ว่านี้คือ การเพิ่มขนาดเส้นรอบวงขององคชาต หรือเพิ่ม “ความใหญ่” จะคนละหัวข้อ กับการเพิ่ม “ความยาว” เพราะถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งขนาดขององคชาตเรามักจะคุ้นเคยกับหน่วย วัดเดียวกับขนาดของถุงยางอนามัย โดยที่คุ้นกันมักจะเป็นไซส์ 49, 52, 56 หรือถ้าอยากวัดไซส์ของ เราจริง ๆ ทำได้โดย วัดตอนองคชาตแข็งตัวเต็มที่ ใช้ไม้บรรทัดแบบงอหรือสายวัด วัดเส้นรอบวงทั้ง หมด (หน่วยมิลลิเมตร) และนำไปหาร 2 จะได้ขนาดองคชาตของเรานั่นเอง เช่น เส้นรอบวง 10.5 เซนติเมตร หาร 2 จะได้ 5.25เซนติเมตร เมื่อปรับหน่วยเป็น มิลลิเมตร จะได้เท่ากับไซส์ 52 นั่นเอง
- วิธีการเพิ่มขนาดองคชาต
- เมื่อทราบถึงไซส์ของตนเองแล้ว หมอเขมจะมาแนะนำวิธีการเพิ่มขนาดองคชาตในปัจจุบันที่ได้ผลจริง มีข้อมูลทางการแพทย์รองรับ ซึ่งแต่ละวิธีจะมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน ได้แก่ การฉีดสารเข้าองคชาต และ การผ่าตัดเพิ่มขนาด
1.การฉีดสารเข้าองคชาต
เป็นวิธีที่ง่าย และปัจจุบันได้รับความนิยมมากที่สุด โดยวิธีการฉีดสารผลลัพธ์จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสารที่ฉีดถ้าทำการฉีดสารที่ไม่เหมาะสมเข้า ถึงแม้ว่าจะสามารถเพิ่มขนาดองคชาตได้ แต่จะมีผลเสียตามมา โดยกลุ่มหลัก ๆ จะแบ่งได้ตามนี้
การฉีดไขมัน(Autologous Fat injection)
ทำได้โดยดูดไขมันของผู้ป่วยเองกลับมาฉีด โดยปกติจะทำการดูดบริเวณน่อง ขาหนีบ หน้าท้องหรือหัวหน่าว โดยการฉีดไขมันนับว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่ปลอดภัย ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเกิด ผลข้างเคียงที่อันตรายได้ คือ ไขมันอุดตันหลอดเลือด (Fat embolism) แต่โอกาสเกิดค่อน ข้างน้อยมาก โดยข้อเสียหลักที่มักพบเจอคือ รูปร่างหลังฉีดเพิ่มขนาดองคชาตไปแล้วจะไม่ สม่ำเสมอเนื่องจากไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีเกือบ 50% ที่ตายและยุบไปนั่นเอง
- Filler หรือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารที่นิยมมากในคลินิกศัลยกรรมความงามเนื่องจากปลอดภัยและนำมาฉีดในจุดสำคัญต่างๆ เพื่อปรับรูปหน้าหรือลบริ้วรอย
- โดยปัจจุบันมีงานวิจัยทางการแพทย์หลายชิ้นที่พบว่าการนำฟิลเลอร์ มาฉีดเข้าองคชาตเพื่อเพิ่มขนาด เป็นวิธีการที่ได้ผลดี ผู้รับการฉีดมีความพึงพอใจมาก ทั้งในแง่ของการเพิ่มขนาด ความเป็นธรรมชาติ และผลข้างเคียงที่น้อย ปัจจุบันการเพิ่มขนาดโดยการฉีดฟิลเลอร์จึงได้รับความนิยมมากที่สุด
- ซึ่งฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดองคชาตนั้น ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ หลายเกรดมาก ดังนั้นการเลือกฟิลเลอร์และเทคนิคการฉีดของแพทย์นั้นจึงมีความสำคัญ ถ้าเลือกฟิลเลอร์ได้ไม่ดีความเป็นธรรมชาติหลังการฉีดจะน้อยลง หรือถ้าตำแหน่งการฉีดไม่ดีอาจทำให้ความสวยงามแตกต่างกันได้
- ข้อดีของฟิลเลอร์คือมีความเป็นธรรมชาติ เพิ่มขนาดแล้วสวยงามทั้งตอนที่องคชาตอ่อนตัวและแข็งตัว(แตกต่างกับบางเทคนิค เช่นการใช้ ซิลิโคน จะสวยตอนอ่อนตัวแต่ดูไม่เป็นธรรมชาติตอนแข็งตัว) มีความปลอดภัยสูง หรือถ้าใครต้องการให้สลายออกสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ไม่ต้องทำการผ่าตัด
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler injection)(Autologous Fat injection)
- เป็นการเพิ่มขนาดที่มีความอันตรายมากที่สุด ไม่ควรลองทำเด็ดขาด วิธีการนี้ได้รับความนิยมในสมัยก่อนเนื่องจากยังไม่มีการพัฒนาสารที่ปลอดภัยในการฉีดเข้าองคชาตและปัจจุบันก็ยังมีการทำกันอยู่เนื่องจากราคาถูก โดยสารที่มักจะนำมาฉีดกันคือ น้ำมันมะกอก ขี้ผึ้ง พาราฟินและเพนนิซิลิน ซึ่งสารพวกนี้ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อให้นำมาฉีดเข้าในร่างกาย หลังจากการฉีดไปจะเพิ่มขนาดได้จริง แต่ลักษณะจะไม่สวยงาม และก่อให้เกิดการอักเสบ ตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะมีการจับเป็นก้อนและพังผืด มีผลต่อการปัสสาวะลำบาก รูดหนังหุ้มปลายไม่ได้ มีปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ทำการเพิ่มขนาดโดยวิธีนี้มักทำด้วยความไม่ตั้งใจ เพื่อนหรือคนรู้จักชวน เป็นการฉีดโดยไม่ใช่แพทย์ทำ
- การแก้ไขการฉีดสารประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณและลักษณะองคชาตหลังฉีด ซึ่งต้องทำการผ่าตัดและมีความยุ่งยากในการรักษา ถ้าใครกำลังเล็งวิธีนี้อยู่หมอขอห้ามเด็ดขาดเลยครับ น้องชายพังแน่นอน
การฉีดสารเหลวอื่น ๆ เข้าองคชาต
2.การผ่าตัดเพิ่มขนาด
การผ่าตัดเพิ่มขนาดนับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลดี แต่จะใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเมื่อเทียบกับวิธีการฉีดและมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ปัจจุบันเลยไม่ได้รับความนิยมเท่าการฉีด โดยการผ่าตัดเพิ่มขนาดแบ่งเป็นดังนี้